บ้านที่หอมสดชื่นตลอดเวลาน่าจะเป็นอะไรที่หลายคนใฝ่ฝัน ในขณะที่ความเป็นจริงบ้านของเราอาจมีกลิ่นรบกวน อย่างกลิ่นอับ และกลิ่นอาหาร ซึ่งกลิ่นภายในบ้าน หรือที่พักอาศัยส่งผลต่อสุขภาพจิตของคนเราได้ด้วย และถ้ากลิ่นในบ้านของคุณสดชื่นก็ทำให้ให้คุณรู้สึกสดใสตามไปด้วย น้องพิษณุโลกน่าอยู่เลยจะมาบอกวิธีที่ช่วยให้บ้านหอมตลอดเวลาให้คุณได้ลองนำไปใช้

.

การมีกลิ่นหอมภายในบ้านนอกจากจะช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว ยังดีต่อสุขภาพจิตของคนในบ้านในหลายด้านด้วย

  • ลดความเครียด: การได้กลิ่นเป็นหนึ่งในรูปแบบการรับรู้ของมนุษย์ เวลาที่จมูกได้กลิ่นหอม สมองจะถูกกระตุ้นให้ประมวลผลว่ากลิ่นนั้นคืออะไร ซึ่งจะช่วยหันเหความสนใจของสมองจากความเครียด และความวิตกกังวลได้ ในระหว่างที่จมูก และสมองกำลังดื่มด่ำกับกลิ่นหอม ความดันเลือด และอัตราการเต้นของหัวใจที่เกิดจากความเครียดจะลดลง
  • ช่วยให้อารมณ์ดี: การศึกษาพบว่าการสูดดมกลิ่นหอมสามารถช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความสุข อย่างเซโรโทนิน (Serotonin) และโดปามีน (Dopamine) ที่ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น
    แค่เพียงประโยชน์ 2 ข้อนี้เพียงพอแล้วที่คุณจะต้องลุกขึ้นมาสร้างกลิ่นหอมให้กับบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการพักผ่อน และเพิ่มความน่าอยู่ให้กับบ้านของคุณ

1. ดูแลความสะอาดภายในบ้านอยู่เสมอ

วิธีทำให้บ้านหอมวิธีแรก เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าบ้านจะมีเครื่องปรับอากาศหรือไม่มี คือการดูแลความสะอาดภายในบ้านอยู่เสมอ กำจัดต้นตอของกลิ่นเหม็นทิ้ง เช่น

  • ทิ้งขยะบ่อย ๆ ไม่ปล่อยจนเน่า
  • ซักผ้าปูที่นอนอาทิตย์ละครั้ง
  • ไม่หมักจานที่กินเสร็จทิ้งไว้
  • ล้างทำความสะอาดห้องน้ำ
  • ซักผ้าม่าน

รวมถึงล้างแอร์บ้าง ก็จะช่วยลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในบ้านได้ในระดับหนึ่ง ถึงจะประโคมเครื่องหอมขนาดไหน แต่ถ้ายังมีจุดที่ไม่สะอาด ยังไงก็ช่วยให้ห้องหอมได้ยาก


2. เปิดหน้าต่างให้ระบายอากาศ

การเปิดหน้าต่างให้ระบายอากาศ จะทำให้อากาศถ่ายเท และช่วยลดกลิ่นอับในห้องได้ อากาศใหม่ ๆ จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้น และเมื่อเปิดหน้าต่าง เปิดม่านให้แสงแดดจากธรรมชาติส่องเข้ามาในห้อง แสง UV จะช่วยกำจัดแบคทีเรียที่เรามองไม่เห็นอีกด้วย โดยเฉพาะห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ อากาศที่ไม่ถ่ายเท จะทำให้ห้องเกิดกลิ่นอับได้ง่ายกว่า ถ้าอยากให้ห้องหอม จึงควรเปิดช่องระบายอากาศบ้าง

3. ใช้อุปกรณ์ดับกลิ่นช่วย

ถ้าเกิดว่าห้องที่เป็นห้องสตูดิโอเล็ก ๆ ไม่มีพื้นที่มาก ทำให้อาจจะต้องกิน นอน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในพื้นที่จำกัด เวลาซื้ออาหารที่มีกลิ่นแรง ๆ เข้ามาหรือทำกับข้าว การจะทำให้ห้องหอมตลอดเวลาก็คงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก นอกจากจะใช้อุปกรณ์ดูดควัน เปิดหน้าต่างระบายอากาศแล้ว การใช้อุปกรณ์ดับกลิ่นช่วย ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน ในการทำให้ลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ แถมยังทำให้บ้านหอมด้วย สูตรห้องหอมแบบไทย ๆ ก็คือการใช้อุปกรณ์ดับกลิ่นอย่างมะกรูด ผ่าครึ่ง และวางไว้ที่มุมห้อง

4. ใช้เครื่องฟอกอากาศ

ห้องที่ไม่มีหน้าต่างหรือเปิดหน้าต่างได้ยาก ก็สามารถใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยในการลดกลิ่นอับภายในห้องได้ ยิ่งในปัจจุบัน มีเครื่องฟอกอากาศที่ทั้งสามารถดูดกลิ่น ฟอกอากาศ แถมยังช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย เพื่อน ๆ ที่เป็นภูมิแพ้ มีติดบ้านไว้ซักเครื่อง รับรองว่าชีวิตง่าย แถมยังช่วยระบายอากาศ ทำให้ห้องหอมขึ้นอีกด้วย

5. ปลูกต้นไม้ในบ้าน

วิธีทำให้บ้านหอมแบบธรรมชาติยอดฮิตอีกหนึ่งอย่าง ก็คงจะเป็นการปลูกต้นไม้ในบ้านเพื่อให้ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ หรือจะปลูกต้นไม้กลิ่นหอมบริเวณบ้าน ก็เป็นวิธีที่เวิร์คสุด ๆ เป็นวิธีทำให้บ้านหอมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ ต้นไม้กลิ่นหอมยอดฮิต ก็อย่างเช่น ดอกพุด จำปี แก้วเจ้าจอม ดอกปีป ดอกแก้ว ต้นโมก หรือจะเป็นต้นที่นิยมนำไปทำกลิ่นน้ำมันหอมระเหย อย่างโรสแมรี่และลาเวนเดอร์ก็เริ่ด!

เคล็ดลับ!!  ทำให้บ้านหอมสดชื่น
เคล็ดลับ!! ทำให้บ้านหอมสดชื่น

6. ตากผ้าในห้อง

สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยู่หอ หรือมีพื้นที่จำกัด การตากผ้าในห้องจะช่วยทำให้ห้องเรามีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ด้วยนะ ยิ่งห้องที่มีแสงแดดส่องถึง และระบายอากาศได้ดี วิธีนี้จะทำให้ห้องหอมตลอดเวลาที่ตากผ้าในห้องเลยทีเดียว แต่ถ้าห้องใครที่อากาศไม่ค่อยถ่ายเท ไม่มีลม การตากผ้าในห้องอาจจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ เวลาตากผ้า ไม่ควรตากผ้าชิดติดกันเกินไป ควรเว้นระยะห่างให้อากาศถ่ายเทได้ จะช่วยให้ผ้าไม่มีกลิ่นอับ และทำให้กลิ่นกระจายตัวได้ดีด้วย

7. ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มชุบสำลี

สูตรห้องหอมสูตรลับ ที่ได้มาจากกลุ่ม “งานบ้านที่รัก” เป็นสูตรที่ทำง่ายแต่เวิร์คมากอีกวิธี คือการใช้สำลี ใส่ภาชนะ และเทน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นที่ชอบลงไปให้ท่วม สูตรนี้จะทำให้ห้องหอมตลอดเวลาเลย ถ้ากลิ่นเริ่มจาง ก็แค่เทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปเพิ่มอีกเรื่อย ๆ แค่นี้เอง ง่ายมาก ! โดยเฉพาะ ถ้าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นที่หอมนาน เป็นวิธีทําให้ห้องหอมแบบงบน้อยสุด

8. จุดเทียนหอมด้วยเตาอุ่นเทียน

ถ้าใครที่พบมีงบ ลองซื้อเทียนหอมยี่ห้อดี ๆ แล้วซื้อเตาอุ่นเทียนมาใช้ จะให้เทียนมีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายมากกว่าการใช้ไฟจุดแบบธรรมดา แถมยังทำให้มีกลิ่นหอมที่นานกว่าปกติอีกด้วย ไม่มีกลิ่นควันมากวนใจ ได้กลิ่นเทียนหอมแบบชัด ๆ เวลาเปิดเตาอุ่นเทียนให้เทียนละลายใหม่ กลิ่นก็ยังไม่จาง เป็นวิธีทำให้บ้านหอมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปด้วยในตัวแบบ 2 in 1

9. ใช้ก้านไม้หอมปรับอากาศ

อยากให้ห้องหอม ใช้อะไรดี? ลองใช้ก้านไม้หอมปรับอากาศเลยจ้า ขอบอกเลยว่าบางครั้ง ห้างดัง ๆ ก็ใช้ก้านไม้หอมปรับอากาศให้ห้องน้ำมีกลิ่นหอมเหมือนกัน ยิ่งในห้องที่ไม่กว้างมาก จะยิ่งทำให้ได้กลิ่นที่หอมฟุ้งมากยิ่งขึ้น วิธีใช้ครั้งแรก ให้คว่ำขวดเพื่อให้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยกระจายตัว ก่อนจะแกะซีลออก แล้วนำก้านไม้เสียบลงไปในน้ำมันหอมระเหย นำไปวางไว้ในจุดใดจุดหนึ่งของห้อง เท่านี้เราก็จะได้ห้องที่หอมฟุ้งตลอดเวลาแล้ว ถ้ารู้สึกว่ากลิ่นเริ่มจาง ก็แค่กลับก้านไม้หอมขึ้นเพื่อสลับด้าน ให้ด้านที่แช่น้ำมันหอมระเหยกลับด้านขึ้นมาข้างบน เท่านี้ก็จะได้กลิ่นห้องหอมไปนาน ๆ แล้ว

10. ใช้ปลั๊กน้ำหอม

วิธีทำให้บ้านหอมวิธีสุดท้าย เป็นวิธีที่เร่งด่วนสุด ๆ และทำให้ห้องหอมฟุ้งเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ภายใน 5 นาที คือการใช้ปลั๊กน้ำหอมนั่นเองค่ะ ปลั๊กน้ำหอม จะเป็นปลั๊กเสียบ แล้วมีขวดน้ำหอมเสียบติดอยู่กับตัวปลั๊ก ถ้าอยากเปลี่ยนกลิ่นก็แค่เปลี่ยนแค่ขวดน้ำหอม เวลาเสียบปลั๊กน้ำหอม จะเกิดความร้อนขึ้น ทำให้กลิ่นหอมระเหยออกมา ส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง แถมตัวปลั๊กก็มีดีไซน์ที่หลากหลาย ใช้เป็นไอเทมแต่งห้องแบบเก๋ ๆ ได้อีกด้วย แต่ราคาจะค่อนข้างสูงนิดหน่อย เพราะต้องซื้อทั้งตัวปลั๊ก และน้ำหอมแยกกัน น้ำหอมหนึ่งขวด ใช้ได้ต่อเนื่องประมาณ 30 วันเท่านั้น

.

ครั้งหน้าน้องพิษณุโลกน่าอยู่จะนำเคล็ดลับอะไรดีๆ มาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ

.

บทความแนะนำ

ติดตาม "พิษณุโลกน่าอยู่" เพื่อไปหาบ้านมือ 1, หาคอนโด, บ้านมือ 2, ที่ดินและหาเช่า/ กดหอพักทั่วเมืองพิษณุโลกได้ที่สามารถพบได้ที่นี่

เว็บไซต์ : www.nayoo.co/Phitsanulok
เฟซบุ๊ก : พิษณุโลกน่าอยู่
Youtube : Phitsanulok Nayoo
Tiktok : พิษณุโลกน่าอยู่
โทร : 063-1939253