ฮวงจุ้ยบ้านคืออะไร

ฮวงจุ้ย (Feng Shui) เป็นศาสตร์พื้นฐานเกี่ยวกับความเชื่อที่อยู่อาศัยเเขนงหนึ่งของจีน ว่าด้วยการจัดตำเเหน่งที่ตั้งของสิ่งต่างๆทั้งภายในเเละภายนอกบ้านให้เหมาะสมกับธรรมชาติ เชื่อว่าเป็นการเสริมพลังให้เเก่ผู้อยู่อาศัย ปรับพลังงานในบ้านให้เกิดความสมดุล  อีกทั้งป้องกันสิ่งไม่ดีหรือพลังงานด้านลบที่จะส่งผลกระทบให้กับคนในบ้าน โดยฮวงจุ้ยบ้านก็มีหลักการจัดวางมากมายที่ผู้อ่านสามารถนำมาปรับใช้กับห้องต่างๆกับบ้าน โดยเเเต่ละห้องก็จะมีหลักเกณฑ์ในการจัดวางตำเเหน่งสิ่งของที่ต่างกันออกไป ขอนเเก่นน่าอยู่จะพาทุกท่านไปดูว่าฮวงจุ้ยกับห้องเเต่ละห้องนั้นควรจัดวางอย่างไร

ฮวงจุ้ยกับห้องนอน

โดยปกติเเล้วคนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในห้องนอนมากกว่าห้องอื่นๆภายในบ้าน เพราะเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน อีกทั้งห้องนอนที่ดีจะส่งเสริมพลังงานที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย สำหรับห้องนอนทิศทางก็เป็นอันดับเเรกที่ต้องนึกถึง เพราะเป็นห้องที่มีความสำคัญต่อผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก ซึ่งเเต่ละทิศก็จะช่วยเสริมในเรื่องที่ต่างกันออกไป

  • ทิศเหนือ หากตำเเหน่งที่ตั้งของห้องนอนอยู่ทางด้านทิศเหนือ จะเสริมให้มีความสามารถในการรับรู้ตามสัญชาตญาณ มีไหวพริบ ปรับตัวได้รวดเร็ว
  • ทิศใต้ จะช่วยให้ได้รับการยอมรับจากคนในสังคม เป็นที่รู้จักในทางที่ดี
  • ทิศทางตะวันออก จะช่วยให้ห้องนอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น เกิดคความรู้สึกสงบไร้สิ่งรบกวน พักผ่อนโดยไม่กังวลใจ
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วยเสริมในด้านการทำงานที่ดี โดยเฉพาะในด้านที่มีความเกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าวิจัยเเละการทดลองต่างๆ
  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยเสริมให้เป็นคนที่ขยันเเละมีความอดทนในการทำงาน
  • ทิศตะวันตก เหมาะสำหรับคู่รักสามี ภรรยาที่ต้องการมีลูก ทิศนี้ก็จะช่วยให้สมหวัง
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จะช่วยส่งเสริมเกี่ยวกับการมีบริวารเเละเพื่อน มีคนรู้จักเพิ่มขึ้น
  • ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ช่วยให้ส่งเสริมเรื่องความรักให้ราบรื่น

นอกจากนี้ขอนเเก่นน่าอยู่ยังมีหลักฮวงจุ้ยเกี่ยวกับห้องนอนที่เป็นข้อควรทำเเละข้อควรหลีกเลี่ยงมาฝากผู้อ่านกันอีกด้วย

  1. จัดหัวเตียงนอนให้เยื้องจากประตู  เพราะเชื่อว่าจะทำให้ได้รับพลังงานที่ดี ได้รับ        โชคลาภ การงานราบรื่นไร้อุปสรรค นอกจากนั้นช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัยเพราะสามารถมองเห็นตำเหน่งการเข้า-ออกได้
  2. หัวเตียงควรจัดชิดกำแพง ไม่ควรปล่อยให้มีช่องว่างระหว่างหัวเตียงเเละกำเเพง เพราะจะทำให้รู้สึกไม่ดี ฝันร้ายบ่อยครั้ง จนร่างกายเกิดความอ่อนเเอทั้งด้านสุขภาพ

ร่างกายเเละด้านจิตใจ อีกทั้งกำเเพงเป็นตัวเสริมพลังงานที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

  1. ความสูงของเตียงนอน ถือเป็นอีกส่วนที่ไม่ควรมองข้าม โดยความสูงที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 2 ฟุตกว่า เป็นความสูงในระดับพอดี ตกลงมาไม่เกิดอันตราย เเละหากวางเตียงติดกับพื้นจะทำให้ป่วยได้ง่าย เนื่องจากมีโอกาสได้รับฝุ่นมากกว่า

หลักฮวงจุ้ยกับห้องนอนที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะเชื่อว่าจะทำให้เกิดสิ่งไม่ดีกับผู้อาศัย ทรัพย์จางหาย

  1. เตียงนอน ไม่ควรวางตรงกับประตู โดยเฉพาะการหันหัวเตียงหรือท้ายเตียงตรงกับประตูห้องนอน เนื่องจากประตูเป็นเหมือนปากทางของพลังงานทั้งด้านดีเเละไม่ดี ที่พร้อมจะพุ่งเข้าชนขอบประตู ทำให้ผู้อาศัยป่วยง่ายหรืออาจเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ
  2. คานบ้านไม่ควรอยู่ตรงกับเตียงนอน ตำเเหน่งของเตียงนอนนั้นควรอยู่ในมุมที่ดี คือไม่อยู่ใต้ขื่อ คาน เพราะจะทำให้รู้สึกเหมือนโดนกดทับ กดดันตลอดเวลาที่นอนพักผ่อน
  3. ห้ามวางหัวเตียงตรงกับประตูที่เปิด เพราะจะทำให้ทำให้ป่วยง่ายเเละอาจเป็นอุปสรรคต่อชีวิตประจำวัน
  4. ไม่ควรวางเตียงนอนไว้พื้นที่โล่ง เพราะจะให้ความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย เกิดความกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะเตียงที่พื้นที่รอบด้าน 4 ทิศเป็นพื้นที่โล่งทั้งหมด
  5. เตียงไม่ควรวางไว้ระหว่างประตูเเละหน้าต่าง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ถูกดูดพลังงานในขณะที่พักผ่อน ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เเต่สามารถเเก้ไขได้ด้วยการติดม่าน

ของตกเเต่งก็เป็นอีกส่วนที่เกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ยห้องนอน นอกจากจะให้ความรู้สึกสวยงามเเล้วยังช่วยเสริมให้ฮวงจุ้ยดี เกิดความสุขเเละพลังงานที่ดีเเก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ของตกเเต่งที่เหมาะกับห้องนอนที่ขอนเเก่นน่าอยู่เอามาฝากวันนี้คือโมบาย ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานที่ดีให้กับห้องนอน การเงินให้ราบรื่น ไม่ติดขัด หินมงคล เป็นของตกเเต่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะนอกจากความสวยงงาม เเล้วยังเพิ่มโชคลาภเเละความคล่องตัวทางด้านการเงิน เเละคริสตัล ไม่ว่าจะเป็นเเบบลูกคริสตัลหรือเเบบเเท่งคริสตัล โดยเมื่อนำมาวางไว้ในห้องนอนนั้น จะช่วยเพิ่มพลังงานด้านบวกในห้องนอน นอกจากนี้ใครทำธุรกิจก็จะเสริมความรุ่งเรืองให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

ฮวงจุ้ยกับห้องนั่งเล่น

นอกจากห้องนอนที่ต้องใช้งานอยู่เป็นประจำเเล้ว ห้องนั่งเล่นก็เป็นอีกห้องที่ทุกคนในครอบครัวมาใช้เวลาเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน  ทั้งการพูดคุยหรือการพักผ่อนซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของสมาชิกภายในบ้านเลยก็ว่าได้  อีกทั้งถ้าฮวงจุ้ยห้องนั่งเล่นมีพลังงานที่ดีก็จะช่วยให้เกิดความเป็นมงคลกับครอบครัวอีกด้วย ฮวงจุ้ยกับห้องนั่งเล่นที่ดีควรโปร่ง โล่ง สบาย อากาศถ่ายเทสะดวก ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผู้อยู่อาศัยไม่เกิดความอึดอัด ซึ่งจะมีหลักการอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1. ตำเเหน่งของห้องนั่งเล่น

ส่วนใหญ่เเล้วเมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาเเล้ว ห้องนั่งเล่นมักจะเป็นจุดเเรกที่สังเกตเห็นเพราะเป็นการบ่งบอกว่าเจ้าของบ้านยินดีต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเต็มใจ เเต่ไม่ควรอยู่ชิดประตูทางเข้าบ้านมากเกินไป ควรขยับเข้ามาด้านในเพื่อให้กระเเสอากาศที่ผ่านมาจากประตูหน้าบ้านสะสมบริเวณโถงทางเดิน อีกทั้งควรไม่อยู่ในพื้นที่อับหรือทึบ รวมไปถึงไม่ควรมองเห็นห้องครัวเเละห้องน้ำได้อย่างชัดเจน

2. ไม่ควรมีคานหรือฝ้าหลุม

โบราณว่าไว้อย่านอนใต้ขื่อใต้คาน ซึ่งเป็นกุศโลบายที่ห้ามไม่ให้นอนตรง   คานบ้าน เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หากมีการชำรุดร่วงลงมา ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ย คานนั้นจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนโดนกดทับ เนื่องจากเป็นจุดที่กระเเสอากาศไหลเวียนปะทะกับคาน ทำให้บริเวณใต้คานมีกระเเสกดทับลงมา เป็นสาเหตุให้เจ็บป่วยหรืออารมณ์หงุดหงิดได้ง่าย

3. เครื่องปรับอากาศไม่ควรอยู่เหนือบริเวณที่นั่ง

เครื่องปรับอากาศเปรียบเหมือนคานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกับขื่อหรือฝา จึงไม่ควรนั่งอยู่ใต้ เพราะกระเเสอากาศที่ไหลเวียนปะทะกับเครื่องปรับอากาศ จะเกิดการบังคับให้กระเเสอากาศกดต่ำเป็นพิเศษ อีกทั้งหากนั่งใต้เครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน อาจจะทำให้ป่วยได้

4. เฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นไม่ควรมองข้าม

ชิ้นส่วนสำคัญที่จะทำให้ห้องนั่งเล่นมีความสมบูรณ์ โดยเครื่องใช้ในห้องนั่งเล่นไม่ควรมีสีทึบ โซฟาควรมีขาลอยยกจากพื้นห้อง โต๊ะกลางโซฟาที่มีสภาพโปร่ง จะทำให้กระเเสพลังงานไหลเวียนดี อีกทั้งช่วยให้ทำความสะอาดใต้โซฟา ใต้โต๊ะได้ง่าย รวมไปถึงยังมีการจัดวางที่      เหมาะสมตามธาตุของผู้อยู่อาศัยที่เหมาะกับการวางตำเเหน่งทิศของเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย

5. ของที่วางต้องเป็นระเบียบ ไม่เกะกะห้องนั่งเล่น

การวางของไม่เป็นระเบียบหรือทำให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นรก ห้องดูสกปรกไม่น่ามอง  จะทำให้กระเเสพลังงานไม่ดี อีกทั้งยังมีผลต่ออารมณ์ของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

6. ประดับด้วยของตกเเต่งที่มีสีเเดงเเละสีทอง

ของประดับตกเเต่งเป็นจิ๊กซอว์ที่จะช่วยให้ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับเเขกดูสมบูรณ์มากขึ้น โดยควรนำสิ่งของที่มีสีเเดงเเละสีทองอยู่ในชิ้นเดียวกันมาใช้ตกเเต่ง เพราะเป็นสีที่จะช่วยลดความรุนเเรงทางด้านอารมณ์ที่อาจก่อให้เกิดความขัดเเย้ง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ฮวงจุ้ยกับห้องครัว

อีกหนึ่งห้องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเปรียบเป็นห้องที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของบ้าน โดยฮวงจุ้ยกับห้องครัวนั้น หากจัดวางอย่างถูกต้องก็จะช่วยส่งผลดีให้กับห้องครัว เเต่ต้องมีความสมดุลระหว่างธาตุน้ำเเละธาตุไฟ เพราะมีการใช้ทั้งสองธาตุภายในห้องนี้

1.ตำเเหน่งห้องครัว

ทิศใต้หรือทิศตะวันออกเป็นตำเเหน่งที่เหมาะในการสร้างห้องครัว เนื่องจากมีสภาพอากาศที่พอดี หลีกเลี่ยงตำเเหน่งที่ใกล้กับห้องนอน ไม่ควรอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้เลยทันที ควรอยู่ทางด้านหลังบ้านเพราะเป็นจุดอับที่คนภายนอกมองเห็นได้ยาก เพราะห้องครัวเปรียบเป็นความอุดมสมบูรณ์ เป็นที่เก็บขุมทรัพย์ โชคลาภต่างๆ หากคนภายนอกมองเห็นได้ง่าย อาจเป็นการดึงเอาโชคลาภไปได้

2. การวางเตาไฟในห้องครัว

สิ่งที่ห้องครัวจะขาดไปไม่ได้เลยนั้นคือเตาไฟ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับห้องครัว เพราะใช้ในการประกอบอาหาร อีกทั้งเตายังเป็นตัวเเทนของธาตุไฟ จึงควรวางในตำเเหน่งที่มองเห็นได้ง่ายในห้องครัว ห้ามตั้งไว้ตรงกลางครัว โดยตำเเหน่งที่เหมาะสมสำหรับการตั้งเตาไฟคือทางด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เเละทิศใต้ หลีกเลี่ยงการตั้งเตาอบยู่ตรงกับประตูหลักของบ้าน เพราะคนภายนอกสามารถมองเข้ามาเห็น จะทำให้เงินทองรั่วไหล รวมไปถึงไม่ควรรทำราวตากผ้าเหนือเตาไฟ

3. โต๊ะอาหารในห้องครัว

ควรใช้โต๊ะกลม สี่เหลี่ยมพื้นผ้า หรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส อีกทั้งควรจัดเก้าอี้เป็นเลขคู่  ตกเเต่งด้วยโทนสีที่สบายตา เพราะสีมีผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งาน โดยสีโทนร้อนจะให้ความรู้สึกเจริญอาหาร ส่วนสีโทนเย็นจะทำรับประทานอาหารได้น้อย

4.การเลือกสีจานตามหลักฮวงจุ้ย

จานชามเป็นอุปกรณ์ที่ใช้บ่อยในห้องครัว โดยสีเเละรูปทรงก็มีผลต่อฮวงจุ้ยบ้านกับห้องครัว โดยหากจะให้ดีควรใช้จานทรงกลมสีขาว เพราะเป็นรากฐานของความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งสื่อถึงความกลมกลืนการหมุนเวียนของสิ่งต่างๆ

5.ไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำ

ห้องครัวที่อยู่ติดกับห้องน้ำนั้นถือว่าฮวงจุ้ยไม่ดี เพราะถือเป็นเเหล่งพลังงานที่ ไม่ดี อีกทั้งอาจจะมีกลิ่นเหม็นโชยมาบริเวณห้องครัว หากบ้านที่มีห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับห้องครัว หรือประตูทั้งสองห้องหันหน้าชนกัน สามารถเเก้ฮวงจุ้ยโดยการไม่เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ เพื่อกั้นไม่ให้พลังงานที่ดีไหลออก  หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำ หรือทาสีผนังห้องทั้งสองให้เเตกต่างต่างกัน ก็จะช่วยให้พลังงานทั้งสองห้องปะทะกัน อีกทั้งเป็นการเเบ่งพื้นที่ได้อย่างชัดเจน

6.โทนสีห้องครัวทำให้ดูสบายตาเเละเพิ่มความน่าอยู่

สีโทนสีน้ำตาล สีส้มอิฐหรือสีฟ้า ตามหลักฮวงจุ้ยเป็นสีที่เหมาะกับห้องครัว เพราะเป็นโทนสีที่ช่วยลดความร้อน ส่วนใหญ่ห้องครัวจะทาสีเป็นโทนสีขาว เพราะทำให้ห้องดูสว่างเเละดูสะอาดตา เเต่ก็มาพร้อมกับคราบความสกปรก ทำให้ดูไม่น่ามองเเละเลอะได้ง่าย อย่างไรก็ตามการเลือกทาสีห้องครัวตามความชอบของผู้อยู่อาศัย ล้วนส่งผลต่อจิตใจเเละทำให้มีความสุขกับห้องครัว

7. ห้องครัวควรสว่าง อากาศถ่ายเทสะดวก

ความสว่างเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด มองเห็นได้ชัดเจน เเสงสว่างที่พอดีจะช่วยให้มีพลังงานที่ดีไหลเวียนภายในห้องเเละขจัดพลังงานด้านลบออกไป

8.ห้องครัวขนาดเล็กควรดูโปร่งไม่อึดอัด

ฮวงจุ้ยกับห้องครัวที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หากจัดตามหลักก็จะเพิ่มความน่าอยู่เเละเสริมพลังงานที่ดี อีกทั้งห้องครัวที่ดูสะอาด เเล้วมีความโปร่งโล่งความจะทำให้ห้องครัวน่าใช้มากยิ่งขึ้น ควรใช้ชั้นวางของที่สีโทนอ่อน เเละอาจเพิ่มกระจกเข้ามาเพื่อให้ห้องครัวดูไม่อึดอัดจนเกินไป เสริมให้ดูพื้นที่กว้างขึ้น

ฮวงจุ้ยกับห้องน้ำ

ห้องน้ำจัดเป็นห้องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ตามหลักของฮวงจุ้ยเเล้วนั้น ถือเป็นห้องที่ไม่ดี เพราะมีทั้งความชื้นเเละการรั่วไหล อีกทั้งยังเป็นที่สะสมของเสีย รวมไปถึงเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นพลังงานด้านลบ หากฮวงจุ้ยของห้องน้ำดีก็จะช่วยเสริมพลังงานด้านดีให้กับบ้าน เเละช่วยขจัดพลังงานด้านลบออกไป

1.ตำเเหน่งที่ตั้งห้องน้ำในบ้าน

ทิศทางเเละตำเเหน่งที่ตั้งของห้องน้ำนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากตั้งในพื้นที่ฮวงจุ้ยไม่ดี ก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับพลังงานด้านลบ ไม่ควรตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้าน เพราะลมจะพัดเอาสิ่งสกปรกรวมถึงพลังงานไม่ดีเข้ามาในบ้าน โดยตำเเหน่งฮวงจุ้ยห้องน้ำที่เหมาะสมควรจะอยู่บริเวณค่อนไปหลังบ้านเเละ เป็นมุมอับสายตา เพื่อป้องกันพลังงานด้านลบที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของคนในครอบครัว เเต่ผู้อ่านที่มีห้องน้ำอยู่ในตำเเหน่งฮวงจุ้ยที่ไม่เเละไม่สามารถย้ายตำเเหน่งที่ตั้งได้ สามารถเเก้ไขได้ด้วยการปิดประตูห้องน้ำไว้ตลอดเวลา หรือการเพิ่มฉากกั้นประตูห้องน้ำเพื่อช่วยกันไม่ให้พลังงานด้านลบออกมา

2. พื้นห้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ยที่ถูกต้อง

ความสูงของพื้นห้องน้ำก็สามารถส่งผลต่อฮวงจุ้ยได้ พื้นห้องน้ำไม่ควรสูงกว่าพื้นห้อง ควรอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นห้องประมาณ 5-10 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก ตามความเชื่อฮวงจุ้ยห้องน้ำถือเป็นห้องที่มีพลังงานที่ไม่ดี หากน้ำไหลมาด้านนอก ก็เปรียบเหมือนการนำพลังงานด้านลบเข้าม ซึ่ง ส่งผลเสียให้กับผู้อยู่อาศัยในด้านต่างๆ

3. โทนสีที่เหมาะสมกับห้องน้ำ

โทนสีสว่างมีผลกับฮวงจุ้ยของห้องน้ำ เป็นการรักษาสมดุลไม่ให้หยินหยางถูกกั้น สามารถตกเเต่งเพิ่มเติมด้วยสีของธาตุดินหรือธาตุไม้ เช่น สีเขียว สีน้ำตาล ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเเล้วสีเหล่านี้จะช่วยลดเเละดูดซับพลังงานที่ไม่ดี ควรหลีกเลี่ยงการใช้สีของธาตุน้ำเเละธาตุไฟ เพราะจะไปกระตุ้นให้เกิดพลังงานลบมากยิ่งขึ้น  อย่างเช่น สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเหลือง สีเเดงเเละสีม่วง ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพ ความสัมพันธ์ รวมไปถึงด้านการเงินที่ไม่ราบรื่นได้

เป็นอย่างไรกันบ้างหลักฮวงจุ้ยกับห้องต่างๆที่ขอนเเก่นน่าอยู่นำมาฝากทุกท่าน อย่างไรก็ตาม   ฮวงจุ้ยนั้นเป็นเพียงหลักความเชื่อ ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ให้ผู้อยู่อาศัยสบายใจเเละมีความสุข สามารถหยิบหลักการบางหลักการมาใช้ได้ตามความเหมาะสมของผู้อยู่อาศัย โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองเเละคนรอบข้าง หากมีการจัดวางตามหลักเเล้วนอกจากเพิ่มความน่าอยู่ ยังช่วยเพิ่มพลังงานด้านบวก เสริมความเป็นสิริมงคลที่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นอีกด้วย

กดติดตาม "ขอนแก่นน่าอยู่" หา บ้านที่ดินคอนโดหอพัก ทั่วเมืองขอนแก่น‌‌🏡🏡ทั้ง บ้านมือ1, มือ2 เพิ่มเติมได้ที่‌‌
⭕️ Website : www.NaYoo.co (ไม่มี m)‌‌
⭕️ Facebook : ขอนแก่นน่าอยู่‌‌
⭕️ YouTube : https://www.youtube.com/c/khonkaennayoo