ใครเป็นสายช้อปห้ามพลาด ! หลังจากปีที่แล้วมีโครงการช้อปดีมีคืนเพื่อลดหย่อนภาษีไป ในปีนี้ก็มีโครงการดี ๆ อีกเช่นเคยกับ Easy E-Receipt เพื่อลดหย่อนภาษี 2567 ในวันนี้น้องน่าอยู่จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักมาตรการ Easy E-Receipt กันว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างและซื้ออะไรได้ลดหย่อนภาษี 2567 บ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับ

มาตรการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2567 คืออะไร

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักมาตรการ Easy E-Receipt กันก่อนเลยครับ มาตรการ Easy E-Receipt คือ โครงการลดหย่อนภาษี 2567 ที่กรมสรรพากรได้กำหนดให้ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำหลักฐานใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ของการซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 - 15 กุมภาพันธ์ 2567 เรียกได้ว่าได้ทั้งช้อป ได้ทั้งลดหย่อนภาษีเลยครับ

เงื่อนไขในการใช้สิทธิ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2567

น้องน่าอยู่คิดว่า Easy E-Receipt เป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและถูกใจขาช้อปเพื่อลดหย่อนภาษี 2567 หลายคนเลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะไปใช้สิทธิกันอย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขกันให้ดีก่อนด้วยนะครับ ซึ่งกรมสรรพากรกำหนดไว้ว่าผู้มีสิทธิใช้ EASY E-Receipt ต้องเป็นผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น และการคำนวณลดหย่อนภาษีจะขึ้นอยู่กับฐานการเสียภาษีและรายได้ของแต่ละบุคคล

โดยน้องน่าอยู่ได้ยกการคำนวณฐานการเสียภาษีมาให้ทุกคนดังนี้ครับ

ตัวอย่างการคำนวณเงินลดหย่อนภาษี : น้องน่าอยู่มีรายได้สุทธิต่อปีอยู่ที่ 800,000 บาท น้องน่าอยู่จะได้รับเงินลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt กี่บาท

ก่อนอื่นให้ดูก่อนว่าน้องน่าอยู่ต้องเสียอัตราภาษีเท่าไหร่ ซึ่งกรณีนี้น้องน่าอยู่มีรายได้ 800,000 บาท ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียอัตราภาษี 20%

กรณีน้องน่าอยู่เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt และซื้อสินค้าและบริการ 50,000 บาท

  • อัตราการเสียภาษี 20% จะได้เงินลดหย่อนภาษี (50,000 x 20%) = 10,000 บาท

กรณีน้องน่าอยู่ซื้อสินค้าและบริการ 30,000 บาท ซึ่งไม่ถึง 50,000 บาท เราสามารถคำนวณโดยใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุดตามยอดที่ได้ใช้จ่ายจริงเท่านั้น

  • อัตราการเสียภาษี 20% จะได้เงินลดหย่อนภาษี (30,000 x 20%) = 6,000 บาท

ซื้ออะไรถึงใช้สิทธิ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษี 2567 ได้

หลังจากรู้เงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2567 Easy E-Receipt กันไปแล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่าเราต้องซื้อสินค้าและบริการอะไรถึงจะสามารถใช้สิทธิ Easy E-Receipt เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี 2567 ได้ ขาช้อปเตรียมจดกันได้เลยครับ !

สินค้าและบริการที่สามารถใช้สิทธิ Easy E-Receipt 2567 ได้

สินค้าและบริการที่สามารถใช้สิทธิ EASY E-Receipt และใช้ลดหย่อนภาษี 2567 ได้ ต้องมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้ครับ

  • สินค้าหรือบริการที่ถูกซื้อหรือใช้บริการในราชอาณาจักรไทยเท่านั้น
  • สินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการที่มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ผ่านระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt ของกรมสรรพากรให้กับผู้ซื้อหรือผู้ใช้บริการได้
  • หนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารทั้งในรูปแบบปกติและในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-book)
  • สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนแล้ว

โดยทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่สามารถออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice และ e-Receipt ของกรมสรรพากรได้ที่นี่เลยครับ หรือสังเกตร้านค้าที่มีสัญลักษณ์  EASY E-Receipt หรือ E -Tax Invoice and e-Receipt ได้เลยครับ

สินค้าและบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิ Easy E-Receipt 2567 ได้

ต่อไปเรามาดูกันเลยครับว่ามีสินค้าและบริการอะไรบ้างที่ไม่สามารถใช้สิทธิ EASY E-Receipt เพื่อลดหย่อนภาษี 2567ได้ ซึ่งสินค้าและบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ มีดังนี้ครับ

  • สุรา เบียร์ และไวน์
  • ยาสูบ
  • รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
  • น้ำมัน และก๊าชสำหรับเติมยานพาหนะ
  • สาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า บริการสัญญาณโทรศัพท์ และบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
  • บริการที่มีข้อตกลงการให้บริการ และผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนด (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 - 15 กุมภาพันธ์ 2567)
  • เบี้ยประกันวินาศภัย

วิธีลดหย่อนภาษีโดยใช้สิทธิ Easy E-Receipt 2567

เมื่อเรารู้แล้วว่าสินค้าและบริการอะไรที่สามารถใช้สิทธิ EASY E-Receipt เพื่อลดหย่อนภาษี 2567ได้บ้าง ก็ทำการไปช้อปสินค้าและบริการตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไข จากนั้นให้เก็บรวบรวมใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ที่ร้านค้าออกให้เอาไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งเป็นไฟล์ pdf เข้าทางอีเมลของผู้ซื้อ น้องน่าอยู่แนะนำว่าให้เก็บรวมไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน ตอนต้องการลดหย่อนภาษีจะได้หาง่าย ๆ นะครับ

หลังจากนั้นให้รอ วันที่ 1 ม.ค. 2568 ถึงประมาณเดือน มี.ค. 2568 จะเป็นช่วงยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2567 ซึ่งจะมีแบบฟอร์มให้เรากรอกตัวเลขจำนวนค่าซื้อสินค้าและบริการที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. 2567 จากใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดหย่อนภาษี 2567 นั่นเอง

ข้อควรระวัง สำหรับลดหย่อนภาษี 2566 ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึงประมาณเดือน มี.ค. 2567 เป็นมาตรการช้อปดีมีคืนเพื่อคืนภาษี 2566 ซึ่งต้องใช้ใบกำกับภาษีที่ออกระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. 2566 เท่านั้น อย่าเข้าใจผิดนำข้อมูลใบกำกับภาษีที่ออกระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. 2567 ไปกรอกข้อมูลเพื่อลดหย่อนภาษี 2567กันนะครับ เพราะผิดเงื่อนไขของกรมสรรพากร และจะทำให้การลดหย่อนภาษีเกิดความล่าช้าอีกด้วยครับ

บทสรุป

จบกันไปแล้วกับการทำความรู้จักมาตรการ Easy E-Receipt ซื้ออะไรได้ลดหย่อนภาษี 2567บ้าง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังสนใจซื้อสินค้าและบริการเพื่อลดหย่อนภาษี 2567จะมีความเข้าใจและนำไปเป็นแนวทางกันได้นะครับ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ทุกคนอย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมก่อนทำการลดหย่อนภาษีกันด้วยนะครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านเดี่ยวและคอนโดอยู่ สามารถเข้ามาเลือกชมโครงการบ้านใหม่พร้อมอยู่ และโครงการคอนโดได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ แหล่งรวมประกาศขายบ้านเดี่ยว โครงการบ้านจัดสรรและคอนโด แนะนำโครงการใหม่พร้อมอยู่ทุกทำเล ที่มาพร้อมกับดีไซน์ สไตล์บ้านที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่คุณชอบ มีให้เลือกกว่า 1,300 โครงการและยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกันอีกด้วย

บทความแนะนำ

อ้างอิง

กดติดตาม "ขอนแก่นน่าอยู่" เพื่อ หาบ้านมือ 1, หาคอนโด, บ้านมือ 2, ที่ดิน รวมถึงหาเช่า/หอพักทั่วเมืองขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่บนเว็บไซต์