ใครที่กำลังขายบ้านเก่าไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเรื่องการย้ายที่อยู่อาศัยหรือการเพิ่มขึ้นของสมาชิกในครอบครัว มาฟังทางนี้ครับ หลายคนที่กำลังขายบ้านเก่าแล้วไปซื้อบ้านใหม่อาจยังไม่รู้ว่าเราสามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้ด้วย ซึ่งก็มีรายละเอียดและเงื่อนไขที่ต้องศึกษาเพิ่มเติม และวันนี้น่าอยู่จะพาทุกคนไปศึกษารายละเอียดกันครับ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

ซื้อขายบ้านมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ซื้อขายบ้านมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

การซื้อขายบ้านมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายมากมายที่ต้องศึกษาให้ดี ไม่ว่าจะเป็นคนขายบ้านหรือคนหาบ้านต้องทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ดังนั้นเรามาดูกันเลยครับว่าการซื้อขายบ้านมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ค่าโอนกรรมสิทธิ์

ค่าโอนกรรมสิทธิ์ คือ ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้าน ณ สำนักงานที่ดิน ซึ่งจะมีการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายบ้านเกี่ยวกับรายละเอียดการจ่ายค่าโอน เพื่อให้การซื้อขายบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น ควรศึกษารายละเอียดให้ดี โดยค่าใช้จ่ายในการโอนบ้าน มีดังนี้

  1. ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน คิดที่ 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ราคาไหนสูงกว่าให้ใช้ราคานั้นในการคำนวณ โดยเราสามารถตรวจสอบราคาประเมินได้จากเว็บไซต์กรมธนารักษ์
  2. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ คิดที่ 3.3% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ราคาไหนสูงกว่าให้ใช้ราคานั้นในการคำนวณ ต้องจ่ายในกรณีผู้ขายต้องครอบครองบ้านมือสองนั้นเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี แต่หากครอบครองมากกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนั้นเกิน 1 ปี ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าภาษีธุรกิจเฉพาะแต่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์แทน
  3. ค่าอากรแสตมป์ คิดที่ 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ราคาไหนสูงกว่าให้ใช้ราคานั้นในการคำนวณ แต่ถ้าผู้ขายเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว ไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์
  4. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เงินที่ได้จากการขายบ้านถือเป็นรายได้ จึงต้องนำมาคำนวณ โดยมีการหักค่าใช้จ่ายตามจำนวนปีที่ถือครองตามเกณฑ์ของกรมสรรพากร ใครที่อยากลองคำนวณภาษีสามารถคำนวณได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรเลยครับ แต่หากใครขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ สามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดขอคืนภาษีเงินได้ในลำดับถัดไปครับ
  5. ค่าจดจำนอง คิดที่ 1% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด แต่ในกรณีที่ผู้ซื้อ ซื้อบ้านด้วยเงินสดจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

สำหรับใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับค่าโอนที่ดิน สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ ค่าโอนที่ดินฉบับอัพเดท 2566 พร้อมวิธีคำนวณแบบง่าย ๆ กันได้เลยครับ

ค่าปรับปรุงบ้าน

ค่าปรับปรุงบ้านเป็นอีกค่าใช้จ่ายที่คนขายบ้านและคนที่หาบ้านต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะการซื้อขายบ้านมือสองที่อาจต้องมีการรีโนเวทใหม่หรือต่อเติมเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้ตอบโจทย์ตามความชอบและไลฟ์สไตล์ของเรา

การรีโนเวทบ้านมือสองอาจมีปัญหาที่เราไม่คาดคิด ดังนั้นเราควรวางแผนค่าใช้จ่ายและตั้งงบประมาณให้ดี ซึ่งค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ในการรีโนเวทบ้านมือสอง ได้แก่

  • ค่าออกแบบโดยสถาปนิก ซึ่งสามารถคำนวณได้คร่าว ๆ โดยจะมีค่าสำรวจหน้างาน 2,000 บาทขึ้นไปและค่าออกแบบเริ่มต้นตั้งแต่ 900 บาทต่อตารางเมตร แต่อย่างไรก็ตามราคาอาจขึ้นอยู่กับสถาปนิกแต่ละรายด้วย
  • ค่าผู้รับเหมา ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามแต่ละเจ้าเช่นกัน ควรเลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือและราคาเหมาะสมคุ้มค่า สิ่งสำคัญคืออย่าลืมพูดคุยรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากที่ตกลงกันไว้
  • ค่าเช่าบ้าน ในกรณีที่ไม่มีที่อยู่อาศัยสำรอง ต้องไปเช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยชั่วคราว เป็นค่าใช้จ่ายที่อย่าลืมคำนึงถึงด้วยนะครับ

สำหรับใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับการรีโนเวทบ้านเพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ อยากรีโนเวทบ้านชั้นเดียว ต้องทำยังไงบ้าง กันได้เลยครับ

นอกจากการรีโนเวทบ้านแล้ว บางคนอาจต้องการต่อเติมบ้านโดยการถมที่เพื่อก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ซึ่งค่าถมที่ดินก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่น้อย ผู้รับเหมาแต่ละรายมีวิธีคิดราคาถมที่ดินแตกต่างกันออกไป เราต้องลองเปรียบเทียบว่าราคาไหนคุ้มกว่าและเลือกดินที่เหมาะสมกับการถมที่ด้วยนะครับ

สำหรับใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับการถมที่ดินเพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ ตอบทุกข้อสงสัย ถมที่ดินราคาเท่าไหร่ กันได้เลยครับ

ขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ ขอคืนภาษีได้จริงมั้ย ?

ขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ ขอคืนภาษีได้จริงมั้ย

จะเห็นได้ว่าการซื้อขายบ้านมีค่าใช้จ่ายมากมายเลยใช่มั้ยล่ะครับ แต่การขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ สามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้นะครับ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว เพราะการขอคืนภาษีเงินได้ช่วยให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ส่วนนึงเลยล่ะครับ

เงื่อนไขการขอคืนภาษี

การขอคืนภาษีเงินได้มีเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็สามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้นะครับ โดยเราสามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้ หากเข้าเงื่อนไขต่อไปนี้

  • มีชื่อในทะเบียนบ้านหลังที่ขายไม่น้อยกว่า 1 ปี
  • มีชื่อในทะเบียนบ้านหลังที่ขาย น้อยกว่า 1 ปี แต่รวมกับชื่อในทะเบียนบ้านหลังใหม่ แล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี

การขอคืนภาษีเงินได้ เราต้องชำระภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่กรมที่ดินไปก่อน แล้วค่อยยื่นเอกสารขอคืนภาษีเงินได้จากสรรพากร โดยกรอกแบบฟอร์ม ค.10 ณ สรรพากรพื้นที่ แล้วยื่นคำร้องขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย พร้อมแนบเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีเงินได้ฉบับที่กรมที่ดินออกให้
  2. สำเนาสัญญาซื้อขายบ้านหลังเก่า
  3. สำเนาสัญญาซื้อขายบ้านหลังใหม่
  4. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียภาษีที่อยู่ในบ้านหลังใหม่ (กรณีมีชื่อในทะเบียนบ้านหลังเก่าน้อยกว่า 1 ปี)

เทคนิคการขายบ้านเก่า

เทคนิคการขายบ้านเก่า

หลังจากไขข้อสงสัยไปแล้วว่าการขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ สามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้จริง ก่อนจากกันไปน่าอยู่จึงได้นำเทคนิคการขายบ้านเก่าและการเลือกซื้อบ้านใหม่มาฝากทุกคนกัน ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูเทคนิคการขายบ้านเก่ากันก่อนเลยครับ โดยเทคนิคการขายบ้านเก่า มีดังนี้

  1. ตั้งราคาขายบ้านให้เหมาะสม อย่าตั้งราคาตามใจตัวเอง ควรพิจารณาจากราคาประเมิน โดยสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์กรมธนารักษ์ และดูจากราคาในทำเลนั้นว่าเขาขายกันอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
  2. ปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่ ควรปรับปรุงบ้านให้น่าอยู่ก่อนประกาศขายบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดบ้านหรือซ่อมแซมบ้านในส่วนที่ควรซ่อมแซม เพื่อให้ผู้ที่กำลังหาบ้านตัดสินใจซื้อบ้านของเราได้ง่ายขึ้น
  3. ลงประกาศขายบ้านตามช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังหาบ้านได้มากขึ้น นอกจากติดป้ายประกาศขายแล้ว เราควรลงประกาศบ้านตามช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์รวมอสังหาริมทรัพย์ เว็บน่าอยู่ก็เป็นหนึ่งในเว็บไซต์รวมอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดให้ผู้ขายสามารถประกาศขายบ้านฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และวิธีลงประกาศขายบ้านมือสองนั้นก็ไม่ยุ่งยากอีกด้วย ใครสนใจสามารถไปลงประกาศขายบ้านฟรีกันได้นะครับ

สำหรับใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับการขายบ้านมือสอง สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ 5 ขั้นตอนขายบ้านมือสอง อยากขายได้เร็วต้องทำอย่างไร กันได้เลยครับ

เทคนิคการเลือกซื้อบ้านใหม่

เทคนิคการเลือกซื้อบ้านใหม่

ต่อไปเรามาดูกันเลยครับว่าเทคนิคการเลือกซื้อบ้านใหม่มีอะไรบ้าง ซึ่งน่าอยู่มีแนวทางในการเลือกซื้อบ้านใหม่มาฝากทุกคนดังนี้ครับ

  1. เลือกหาบ้านที่ถูกใจ บ้านที่ถูกใจของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป ซึ่งการหาบ้านที่ถูกใจสามารถพิจารณาได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาจากราคาที่เหมาะสมกับรายได้ของเรา การพิจารณาจากทำเลที่เราเดินทางสะดวก การพิจารณาจากแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์ตามความต้องการ แนะนำว่าการซื้อบ้านซักหลังควรพิจารณาจากหลายปัจจัยประกอบกันนะครับ
  2. เข้าไปดูสภาพบ้านจริงและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ก่อนซื้อบ้านอย่าดูแค่รูปที่ประกาศขายบ้าน ควรเข้าไปดูสภาพบ้านจริงและสภาพแวดล้อมโดยรอบว่าบ้านหลังนั้นน่าอยู่หรือไม่ เพื่อนบ้านเป็นยังไงบ้าง เพราะบ้านเป็นสิ่งที่เราต้องอยู่อาศัยไปอีกนาน
  3. ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้ดี ก่อนซื้อบ้านควรตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้ดีว่าสามารถซื้อขายบ้านได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีการนำโฉนดที่ดินไปจำนองหรือจำนำหรือไม่ โดยสามารถไปตรวจสอบอย่างละเอียดได้ที่สำนักงานที่ดินเลยครับ

สำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ เรื่องน่ารู้ชวนคิด เอกสารสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดิน กันได้เลยครับ

บทสรุป

จบกันไปแล้วกับการไขข้อสงสัยว่าขายบ้านเก่า ซื้อบ้านใหม่ สามารถขอคืนภาษีเงินได้ได้จริง แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ทุกคนอย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการขอคืนภาษีเงินได้กันด้วยนะครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านขอนแก่นอยู่หรือสนใจหาซื้อบ้านเพื่อไปรีโนเวท สามารถเข้ามาเลือกชม ประกาศขายบ้านมือสองขอนแก่น ได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ แหล่งรวมประกาศขายบ้านมือสองทำเลดี ให้คุณได้เลือกบ้านที่ใช่ตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ และยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการซื้อขายบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกันอีกด้วย

หรือใครที่กำลังประกาศขายบ้านแต่ยังขายไม่ได้ซักที ก็สามารถเข้ามาลงประกาศขายในเว็บไซต์น่าอยู่ได้เช่นกัน ประกาศฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่จำกัด โดยสามารถเข้าดู วิธีลงประกาศขายบ้านมือสองได้ที่นี่ เลย

บทความแนะนำ

อ้างอิง

กดติดตาม "ขอนแก่นน่าอยู่" เพื่อ หาบ้านมือ 1, หาคอนโด, บ้านมือ 2, ที่ดิน รวมถึงหาเช่า/หอพักทั่วเมืองขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่บนเว็บไซต์