บ้านมือสองเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับคนที่กำลังหาซื้อบ้าน เพราะการซื้อบ้านมือสองอาจทำให้เราได้บ้านที่อยู่ในทำเลที่ดี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และได้สำรวจสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ก่อนเข้าอยู่จริง แต่หลายคนที่กำลังสนใจซื้อบ้านมือสองอาจยังไม่แน่ใจว่ามีขั้นตอนและรายละเอียดยังไงบ้าง เพราะฉะนั้นในบทความนี้น่าอยู่จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องควรรู้ก่อนซื้อบ้านมือสองกันครับ

หาบ้านที่ตรงใจ

หาบ้านมือสองที่ตรงใจ

บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง จึงต้องมีการศึกษาให้ดีก่อนเลือกซื้อ เราอาจเห็นประกาศขายบ้านเต็มไปหมดแต่ก็ไม่รู้จะเลือกซื้อบ้านยังไงดี ซึ่งปัจจุบันมีประกาศขายบ้านทางเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์มากมายและเว็บขอนแก่นน่าอยู่ก็มี บ้านมือสองขอนแก่น ให้ทุกคนได้เลือกกว่า 1,500 แห่ง และวันนี้น่าอยู่ก็ได้มีแนวทางหาบ้านมือสองที่ตรงใจมาฝากทุกคนกันครับ

ดูจากทำเล

ทำเลถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อบ้าน เราต้องพิจารณาว่าเราต้องการไปอาศัยอยู่ที่ไหน บ้านทำเลนั้นสามารถเดินทางสะดวกหรือไม่ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เช่น ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย ใกล้โรงพยาบาล หากเราอาศัยอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง

ดูจากแบบบ้าน

เชื่อว่าหลายคนคงมีแบบบ้านในฝันที่เราชอบแน่นอน การเลือกซื้อบ้านมือสองที่ตรงใจจากแบบบ้านที่เราชอบ ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี โดยนอกจากความสวยงามแล้วเราต้องคำนึงถึงการใช้สอย การอยู่อาศัยจริงด้วยเช่นกัน เช่น เลือกซื้อแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ อยู่แล้วรู้สึกโล่งโปร่งสบาย เป็นต้น

ดูจากราคา

ราคาก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการพิจารณาซื้อบ้านมือสอง เราควรเลือกซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสมกับรายได้ของเรา เพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านไม่ได้มีเพียงแค่ค่าบ้าน แต่ยังมีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกับธนาคารอีกด้วย โดยใน เว็บขอนแก่นน่าอยู่สามารถเลือกดูบ้านตามช่วงราคาที่เราสนใจได้ เพื่อป้องกันการเสียเวลาของตัวเอง เราต้องเช็คตัวเองให้ดีก่อนว่าเราจะสามารถขอสินเชื่อกับธนาคารผ่านมั้ยและราคาบ้านเท่าไหร่ที่เหมาะสมกับเรา

เข้าไปดูบ้านจริง

เข้าไปดูบ้านมือสองจริง

หลังจากที่เราเจอบ้านมือสองที่ตรงใจกับเราแล้ว สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าไปดูบ้านจริงด้วยตัวเอง เพราะบางทีบ้านมือสองในประกาศขายบ้านอาจดูสวยงามแต่บ้านของจริงอาจไม่ตรงปกตามรูป เมื่อเราเข้าไปดูบ้านจะได้เห็นสภาพบ้านรวมถึงบรรยากาศสภาพแวดล้อมรอบบ้านอีกด้วย สามารถดูได้ว่าเพื่อนบ้านเป็นยังไง มีปัญหาเรื่องที่จอดรถหรือไม่ สภาพแวดล้อมรอบบ้านมีมลพิษทางกลิ่นหรือเสียงรึเปล่า รวมไปถึงในหน้าฝนมีน้ำท่วมขังหรือไม่ บ้านมีจุดไหนที่ต้องซ่อมแซมบ้าง

ตรวจสอบโฉนดให้ถูกต้อง

ตรวจสอบโฉนดบ้านมือสองให้ถูกต้อง

เมื่อเรามีความสนใจที่จะซื้อบ้านมือสองหลังนั้นแล้วจริง ๆ สิ่งสำคัญต่อมาคือต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินให้ดีว่าสามารถซื้อขายบ้านได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มีการนำโฉนดที่ดินไปจำนองหรือจำนำหรือไม่ ซึ่งโฉนดที่ดินจะระบุเลขที่โฉนด ที่ตั้งของที่ดิน รวมถึงชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เราสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่หลังโฉนดที่ดิน แต่หากต้องการตรวจสอบอย่างละเอียดสมบูรณ์สามารถไปตรวจสอบได้ที่สำนักงานที่ดินเลยครับ

สำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ เรื่องน่ารู้ชวนคิด เอกสารสิทธิ์เกี่ยวกับที่ดิน กันได้เลยครับ

นอกจากตรวจสอบโฉนดที่ดินแล้วอย่าลืมตรวจสอบแนวเวนคืนที่ดินกันด้วยนะครับ ว่าบ้านมือสองที่เราสนใจจะซื้อนั้นอยู่ในแนวเวนคืนที่ดินหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตและเพื่อไม่ให้เราเสียผลประโยชน์นั่นเอง

สำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ เวนคืนที่ดินคืออะไร ขั้นตอนและค่าตอบแทนที่เจ้าของที่ดินควรรู้ กันได้เลยครับ

ทำสัญญาให้เรียบร้อย

ทำสัญญาซื้อขายบ้านมือสองให้เรียบร้อย

การซื้อบ้านมือสองเป็นการซื้อทรัพย์สินที่มีราคาสูงจึงต้องมีการทำสัญญาเอาไว้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ในเบื้องต้นหากมีการตกลงกันแล้วว่าจะทำการซื้อขายบ้านกัน ควรทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อน  เพื่อเป็นการสัญญาว่าจะมีการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้กันในอนาคตหากมีการอนุมัติการกู้จากธนาคารแล้ว ซึ่งในสัญญาก็จะมีรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์และข้อตกลงอื่น ๆ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน เราควรตรวจสอบรายละเอียดสัญญาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดการเสียเปรียบ

สำหรับใครที่อยากศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายเพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านกันได้ที่ สัญญาจะซื้อจะขายคืออะไร สิ่งสำคัญที่คนซื้อบ้านต้องรู้ ! กันได้เลยครับ

ทำเรื่องกู้ธนาคาร

ทำเรื่องกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้านมือสอง

หลังจากทำสัญญาจะซื้อจะขายเรียบร้อยแล้วเราต้องเตรียมตัวทำเรื่องกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้านมือสอง โดยก่อนอื่นเราต้องเตรียมตัววางแผนการเงินของเราให้ดี เพราะหากเราไม่มีการวางแผนการเงินให้ดี ใช้เงินอย่างไม่ระมัดระวังอาจทำให้การกู้เงินซื้อบ้านมือสองไม่ผ่านการอนุมัติ หรืออาจทำให้กู้ไม่สำเร็จได้

โดยสิ่งสำคัญที่ควรทำตั้งแต่เนิ่น ๆ คือการประเมินความสามารถในการกู้เงินซื้อบ้าน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นว่าควรเลือกซื้อบ้านที่มีราคาเหมาะสมกับรายได้ของเรา ซึ่งมีวิธีคำนวณง่าย ๆ คือ กรณีที่มีภาระผ่อนบ้านอย่างเดียว ผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านมือสองไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ต่อเดือน และ กรณีที่มีภาระผ่อนอย่างอื่นด้วย ผ่อนเงินกู้ซื้อบ้านมือสองไม่ควรเกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน

นอกจากการประเมินความสามารถในการกู้เงินแล้วควรเดินบัญชีให้สวยงาม โดยสามารถทำได้โดยการมีเงินฝากเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอและมีการถอนออกอย่างเหมาะสม รวมถึงเคลียร์หนี้ให้หมด เพราะหากมีภาระหนี้สินอยู่จะทำให้มีวงเงินกู้เงินซื้อบ้านต่ำลง และธนาคารอาจมองว่าเรามีภาระหนี้สินเยอะ ซึ่งส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ

เมื่อเตรียมตัวพร้อมสำหรับการขออนุมัติสินเชื่อจากธนาคารแล้ว ต่อไปเราก็ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อกู้ซื้อบ้านมือสอง ซึ่งเอกสารที่เราต้องเตรียมมีดังนี้

  1. เอกสารส่วนตัว
  • บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
  • ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
  • สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่ (ถ้ามี)
  • ใบเปลี่ยนชื่อ หรือชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)

2. เอกสารแสดงรายได้

3. เอกสารหลักประกัน

  • สำเนาโฉนดที่ดิน
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และสัญญามัดจำ
  • แผนที่แสดงทำเลที่ตั้งของหลักประกัน
  • รูปถ่ายของหลักประกัน

สำหรับใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับการกู้เงินซื้อบ้านเพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านกันได้ที่ 5 ขั้นตอนเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านง่าย ๆ ให้ผ่านฉลุย กันได้เลยครับ

ติดต่อโอนกรรมสิทธิ์กับสำนักงานที่ดิน

ติดต่อโอนกรรมสิทธิ์กับสำนักงานที่ดินหลังจากซื้อบ้านมือสอง

หลังจากได้รับอนุมัติการกู้เงินซื้อบ้านมือสองจากธนาคารแล้ว ต้องทำสัญญากู้กับธนาคารและไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมทำสัญญาซื้อขาย ซึ่งผู้ซื้อ ผู้ขาย และธนาคาร ต้องเข้าไปทำเรื่องต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินเท่านั้น

โดยในวันนั้นมีการค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องชำระ ซึ่งส่วนใหญ่รายละเอียดการชำระเงินจะตกลงกันไว้แล้วในสัญญาจะซื้อจะขาย และเพื่อให้การโอนบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นเราควรศึกษาและเตรียมเงินไปให้พร้อม ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีดังนี้

  1. ค่าธรรมเนียมโอนบ้าน คิดที่ 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ราคาไหนสูงกว่าให้ใช้ราคานั้นในการคำนวณ ซึ่งปกติจะแบ่งจ่ายคนละ 1% ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยเราสามารถตรวจสอบราคาประเมินได้จาก เว็บไซต์กรมธนารักษ์
  2. ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ คิดที่ 3.3% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ราคาไหนสูงกว่าให้ใช้ราคานั้นในการคำนวณ ต้องจ่ายในกรณีผู้ขายต้องครอบครองบ้านมือสองนั้นเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี แต่หากครอบครองมากกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมือสองนั้นเกิน 1 ปี ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์แทน
  3. ค่าอากรแสตมป์ คิดที่ 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาขาย ราคาไหนสูงกว่าให้ใช้ราคานั้นในการคำนวณ แต่ถ้าผู้ขายเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะแล้ว ไม่ต้องเสียค่าอากรแสตมป์
  4. ค่าจดจำนอง คิดที่ 1% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด แต่ในกรณีที่เราซื้อบ้านมือสองด้วยเงินสดจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

สำหรับใครที่อยากศึกษาเกี่ยวกับค่าโอนที่ดินเพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านกันต่อได้ที่ ค่าโอนที่ดินฉบับอัพเดท 2566 พร้อมวิธีคำนวณแบบง่าย ๆ กันได้เลยครับ

บทสรุป

จบกันไปแล้วสำหรับเรื่องควรรู้ก่อนซื้อบ้านมือสองที่น่าอยู่นำมาฝากทุกคนกัน หวังว่าจะเป็นแนวทางให้ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านมือสองรู้รายละเอียดและขั้นตอนกันมากขึ้นนะครับ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ทุกคนอย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือศึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการซื้อบ้านมือสองด้วยนะครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาซื้อบ้านมือสองขอนแก่นอยู่ สามารถเข้ามาเลือกชม ประกาศขายบ้านมือสองขอนแก่น ได้ที่เว็บไซต์น่าอยู่ แหล่งรวมประกาศขายบ้านมือสองทำเลดี ให้คุณได้เลือกบ้านที่ใช่ตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ และยังมีสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการซื้อขายบ้านที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกันอีกด้วย

หรือใครที่กำลังประกาศขายบ้านแต่ยังขายไม่ได้ซักที ก็สามารถเข้ามาลงประกาศขายในเว็บไซต์น่าอยู่ได้เช่นกัน ประกาศฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่จำกัด โดยสามารถเข้าดู วิธีลงประกาศขายบ้านมือสองได้ที่นี่ เลยครับ

บทความแนะนำ

อ้างอิง

กดติดตาม "ขอนแก่นน่าอยู่" เพื่อ หาบ้านมือ 1, หาคอนโด, บ้านมือ 2, ที่ดิน รวมถึงหาเช่า/หอพักทั่วเมืองขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่บนเว็บไซต์