บ้านมือหนึ่ง VS บ้านมือสอง เลือกแบบไหนโดนใจมากกว่ากันพิษณุโลกน่าอยู่

บ้านมือหนึ่ง VS บ้านมือสอง เลือกแบบไหนโดนใจมากกว่ากัน

หลาย ๆ คนอาจเกิดความลังเลใจอยู่พอสมควรระหว่าง “บ้านมือหนึ่ง” ที่ซื้อตรงจากโครงการ และ “บ้านมือสอง” ที่มักซื้อกับเจ้าของเดิมหรือนายหน้า เลือกแบบไหนที่ตอบโจทย์และเหมาะกับเรามากที่สุด เพื่อช่วยในการประกอบการตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อบ้านแบบไหน ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น น้องพิษณุโลกน่าอยู่จึงนำข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีในการซื้อบ้าน 2 ประเภทนี้ มาฝากกันครับ

ข้อดีของการซื้อ “บ้านมือหนึ่ง”

บ้านมือหนึ่ง VS บ้านมือสอง เลือกแบบไหนโดนใจมากกว่ากัน

แบบบ้านทันสมัย ตอบโจทย์กับการเข้าอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโมเดิร์น มาพร้อมฟังก์ชันเสริมที่ช่วยสร้างความพึงพอใจได้ตามที่คาดหวังเอาไว้
คุณภาพบ้านเป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าเงินที่คุณจ่ายดาวน์ออกไปแล้วคุ้มค่า ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมเพื่อซ่อมแซมบางจุดของบ้าน เช่น ฝ้าเพดานรั่ว ประตูห้องน้ำปิดไม่สนิท หน้าต่างฝืดรางเลื่อนขึ้นสนิม ฯลฯ
ส่วนใหญ่เกือบทุกโครงการบ้านมือหนึ่งจะมีการรับประกันตัวบ้านประมาณ 1-2 ปี ซึ่งจะสอดคล้องกับข้อดีก่อนหน้านี้ หากบ้านเกิดปัญหา เช่น ผนังร้าว หลังคารั่วซึม ระบบไฟฟ้า-ประปาขัดข้อง ทางโครงการจะเข้ามาดูแลให้และมักไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หากเป็นโครงการบ้าน Pre-Sale ปกติแล้วจะสามารถผ่อนดาวน์ได้เรื่อย ๆ ตามระยะเวลาเมื่อบ้านสร้างเสร็จ จุดนี้ทำให้ผู้ที่สนใจซื้อสามารถทยอยจ่ายเงินดาวน์โดยไม่ต้องรอเก็บเงินก้อนใหญ่ซึ่งอาจใช้เวลานานสำหรับหลาย ๆ คน
การกู้เงินจากธนาคารจะทำได้ง่าย เพราะหลายโครงการจะมีดีลกับสถาบันการเงินเอาไว้อยู่แล้ว หากคุณมีประวัติทางการเงินที่ดีโอกาสกู้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมบางครั้งอาจได้โปรดี ๆ จากสถาบันการเงินอีกด้วย เช่น ดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ
โปรโมชันเพิ่มเติมของทางโครงการ เช่น ช่วยจ่ายอัตราดอกเบี้ย 1 ปีแรก มีเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นของแถม ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ฯลฯ
ส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการเป็นของใหม่ ใช้งานดีมีคุณภาพ อาทิ สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส สวนหย่อม กล้องวงจรปิด ระบบรักษาความปลอดภัย

ข้อดีของการซื้อ “บ้านมือสอง”

ราคาบ้านมือสองจะถูกกว่ามือหนึ่ง ข้อนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก อีกทั้งการต่อรองราคายังทำได้ง่ายกว่า ไม่มีการกำหนดตายตัวหรือให้ส่วนลดได้แค่จากที่โครงการระบุ
ไม่ต้องรอโครงการสร้างเสร็จใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อตกลงซื้อ-ขายกันเป็นที่เรียบร้อย ผู้อยู่อาศัยใหม่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที
หลาย ๆ โครงการมีทำเลดีมาก เหตุเพราะถูกสร้างมาก่อน ที่ดินจึงอยู่ใกล้ตัวเมืองมากกว่า เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก
ก่อนเข้าอยู่จริงสามารถประเมินสิ่งแวดล้อมโดยรอบตัวบ้านว่าน่าอยู่อาศัยมากน้อยเพียงใด เช่น เพื่อนบ้าน ระบบรักษาความปลอดภัย ความสะอาดของพื้นที่ต่าง ๆ ภายในโครงการ เป็นต้น
มั่นใจในคุณภาพของวัสดุได้ว่ามีความแข็งแรง ทนทาน ส่วนมากโครงการบ้านในยุคก่อนจะใช้ของมีมาตรฐานสูงเนื่องจากราคาต้นทุนยังไม่แพงมากนักหากเทียบกับค่าวัสดุในปัจจุบัน

ตัดสินใจซื้อบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสองตอบโจทย์กว่ากัน

จากข้อดีที่ได้ระบุไปหลายคนคงกำลังสงสัยอยู่แน่ ๆ ว่าสรุปแล้วระหว่างบ้านมือหนึ่งกับบ้านมือสองควรเลือกโครงการไหนมากกว่า สิ่งสำคัญคงต้องมองที่ความพร้อมและความพึงพอใจของตนเองไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ ความสะดวกในการเดินทาง สภาพบ้าน ความพร้อมของโครงการก่อนเข้าอยู่จริง สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC ช่วงไตรมาส 4 ปี พ.ศ. 2563 มีส่วนหนึ่งที่ชี้ชัดว่าปัจจุบันคนยุคใหม่ให้ความสนใจที่จะซื้อ “บ้านมือหนึ่ง” มากกว่า เหตุผลสำคัญมาจากความทันสมัยในการออกแบบ ก่อสร้าง มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเหมาะกับการใช้ชีวิตของตนเองและครอบครัว

ยิ่งเมื่ออ้างอิงจากผลสำรวจของ DD property’s Thailand Consumer Sentiment Study ก็ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ โดยผู้คนถึง 72% จากการสำรวจ ให้ความนิยมหรือมีความสนใจกับโครงการบ้านใหม่มากกว่า โดยมีเหตุผลสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

58% มองว่าบ้านใหม่มักมีสิ่งอำนวยความสะดวกและคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ทันสมัยกว่า
44% ประเมินว่าบ้านใหม่ก็ยังคงอยู่ในทำเลที่ตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตของตนเอง
43% โครงการเหล่านี้มักตั้งอยู่ในทำเลแห่งใหม่ที่กำลังมีศักยภาพเพิ่มขึ้น

ซึ่งกลุ่มคนที่สนใจบ้านมือหนึ่งมักเป็นคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 30-39 ปี (33%) และกลุ่มอายุระหว่าง 22-29 ปี (25%)

ขณะที่ผู้สนใจบ้านมือสองจากผลสำรวจอีก 28% มองว่าพวกเขาจะเลือกซื้อและนำไปขายต่อในลักษณะ Resale จากเหตุผล 2 ข้อ ได้แก่

คุ้มค่าจากการได้เห็นสภาพบ้านจริง การตกแต่งเสร็จสิ้นทุกอย่าง สภาพแวดล้อมของเพื่อนบ้าน คิดเป็น 57%
ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับโครงการบ้านใหม่ที่พึ่งเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คิดเป็น 56%

ซึ่งที่สนใจบ้านมือสองมักเป็นกลุ่มคนอายุระหว่าง 40-60 ปี (30%) และกลุ่มอายุระหว่าง 50-59 ปี (18%)

จากข้อดีและผลการสำรวจต่าง ๆ จะเห็นว่าทั้งบ้านมือหนึ่งและบ้านมือสองต่างก็มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป ซึ่งการซื้อบ้านสักหลังราคาไม่ใช่ถูก ๆ หากอยู่อาศัยแล้วไม่มีความสุข คงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง ดังนั้นพยายามพิจารณาจากข้อมูลหลายที่ หลายโครงการ แล้วจึงค่อยตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด

บทความแนะนำ